ผู้สื่อข่าวจากกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจโปร่งใสจำนวนมากแสดงความกังวลว่าอาจมีขบวน การในการปั่นราคา หรือสร้างสถานการณ์ให้น้ำมันปาล์มขาดแคลนเพื่อขอปรับขึ้นราคาจำหน่ายน้ำมัน ปาล์มบรรจุขวดอีก 3-5 บาทต่อขวดจากปัจจุบันเพดานขายปลีกไม่เกิน 42 บาทต่อขวด เป็น 45-47 บาทต่อขวด เนื่องจากราคาในประเทศอยู่ในระดับ 33 บาทต่อกก. ซึ่งสูงกว่าประเทศมาเลเซียที่อยู่ในระดับ 26-27 บาทต่อกก.

“ หลังจากที่ราคาผลปาล์มดิบขยับขึ้น ยอมรับว่าผู้ผลิตน้ำมันปาล์มบรรจุขวดเริ่มขาดทุนหรือแทบไม่ได้กำไร  เพราะต้นทุนปาล์มดิบที่ 6 บาทต่อกก.  เท่ากับต้นทุนน้ำมันปาล์มบรรจุขวดที่ 42 บาท ซึ่งเท่ากับราคาเพดานที่ให้จำหน่าย ทำให้ผู้ประกอบการขอให้กระทรวงพาณิชย์เร่งตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่ามีขบวนการ ปั่นราคาเพื่อเก็งกำไรหรือไม่ เพราะหากราคาปาล์มราคาสูงต่อเนื่องจากผู้ประกอบการก็จำเป็นต้องปรับขึ้น ราคา”

นายสมชาติ สร้อยทอง อธิบดีกรมการค้าภายใน  กล่าวว่า  ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบสถานการณ์ผลผลิตปาล์มดิบ และตรวจสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อนำข้อมูลมากำหนดแนวทางและมาตรการในการดูแลเกษตรกรและผู้บริโภคไม่ให้ ได้รับผลกระทบจากการซื้อน้ำมันพืชบรรจุขวดที่อาจตึงตัวได้ เนื่องจากผลปาล์มดิบออกสู่ตลาดน้อยทำให้ราคาขยับขึ้นมาอยู่ระดับ 6 บาทต่อกก.

“ขอให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสถานการณ์ผลผลิต และตรวจสอบสต๊อกโรงงานสกัดและโรงกลั่นว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ รวมถึงให้ตรวจสอบสถานการณ์การส่งออกว่าเป็นอย่างไร เพราะช่วงนี้เป็นช่วงปลายฤดู จึงต้องดูแลไม่ให้สต๊อกน้ำมันปาล์มขาดแคลน เพราะจะมีผลต่อราคาน้ำมันปาล์มบรรจุขวดในท้องตลาดได้”